2552-11-26

อำเภอเถิน

วัดถ้ำสุขเกษมสวรรค์
ตั้งอยู่ที่ 96 หมู่ 3 ต.แม่ถอด อ.เถิน จ.ลำปาง ปากทางเข้าด้านหน้าของวัดจะมีรูปปนพระพุทธเจ้า และั้ีพญานาคพระนอนที่ด้านหน้าของปากทางเข้าถ้ำ บริเวณในถ้ำก็จะมีพระพุทธรูป ปางต่างๆ ข้างบนจะมองลงมาเห็นโบสถไม้สักทองทั้งหลังสวยงามมาก ข้างในมีพระประธานในโบสถ์ ทางเดินขึ้นไปสัการะรอยพระพุทธบาท นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ วัดถ้ำสุขเกษมยังเป็นป่าและภูเขา ซึ่งมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่หลายองค์อยู่บนหน้าผาสูงดูสง่างามมาก มีถ้ำธรรมชาติ เหมาะสำหรับ พักผ่อนหย่อนใจสำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศแบบธรรมชาติและผู้ที่ประสงค์จะปฏิบัติธรรม

อ่างเก็บน้ำแม่มอก ตั้งอยู่ที่ ต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง เป็นอ่างเก็บน้ำเป็นอ่างคันดิน ความจุ 96 ล้านลูกบาศก์เมตรพื้นที่กักเก็บน้ำอยู่บริเวณหุบเขามีธรรมชาติที่สวยงาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยว แห่งใหม่ที่มีศักยภาพดีสำหรับการพัฒนาต่อไปที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

อุทยานแห่งชาติแม่วะ ประกาศจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2543 เป็นต้นกำเนิดของน้ำตกแม่วะมีพื้นที่ 368,125 ไร่ หรือ 589 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลต่างๆ ในอ.เถิน อ.แม่พริก จ.ลำปาง อ.สามเงา อ.บ้านตาก จ.ตาก ภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงติดต่อกัน โดยมีดอยตาจี่เป็นยอดเขา สูงสุด มี ความสูงประมาณ 1,027 เมตร จากระดับน้ำทะเล สภาพป่าแตกต่างกันไปตามระดับ ความสูงของพื้นที่เป็นป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าสนเขาและดิบแล้ง ลักษณะสัณฐานของ เทือกเขาในอุทยานจะเป็นที่ราบเป็นแนวไปตามสันเขา มีต้นไม้ขนาดใหญ่และพืชสมุนไพร อุดมสมบูรณ์ รวมทั้งกล้วยไม้และดอกไม้นานาชนิดที่นี่ยังมีความหลากหลายทางกายภาพทั้งชนิดของดิน และสภาพป่าทำให้พืชและสัตว์ต่างๆ อาศัยอยู่หลายชนิดแต่ที่น่าสนใจ คือกิ้งก่าบิน ี่ปัจจุบันจะพบเห็นได้ยาก แต่ยังพบเห็นได้ในอุทยานแห่งชาติแม่วะในระหว่าง เดือนสิงหาคม ถึง พฤศจิกายน จะเป็นช่วงที่ป่างามมากที่สุด เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ป่า ยอดเขา จะมีหมอกปกคลุม น้ำตกและลำห้วยจะมีน้ำไหลแรงนักท่องเที่ยวนิยมมาผักผ่อน ในช่วงเดือนนี้ ที่พักและสิ่งอำนวย ความสะดวก มีบริการบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยว

อำเภองาว

อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท มีเนื้อที่ประมาณ 758,750 ไร่ ลักษณะเป็นภูเขาสลับซับซ้อนปกคลุมด้วยผืนป่าสงวนแห่งชาติ 9 แห่งในอำเภอต่างๆ จุดสูงสุดอยู่ที่ ดอยแม่ขวัญซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,253 เมตร พื้นที่อุทยานแห่งชาตินี้ยังเป็นทางน้ำไหลลงทางด้านตะวันตกไหลลงสู่แม่น้ำยมที่ทางตอนเหนือของอำเภอสองจังหวัดแพร่ อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทเป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีบันได 283 ขั้นก่อนเข้าถ้ำ มีอุณหภูมิเฉลี่ย ประมาณ26 องศาเซลเซียสอากาศเย็นที่สุดอยู่ในเดือนมกราคมฝน จะตกหนักในเดือนพฤษภาคม - ตุลาคม พบนกจำนวนมากกว่า 50 ชนิด เช่น นกปีกลายสก๊อต นกเขาเขียว นกเขาเปล้าธรรมดา นกเขาเปล้าหางเข็มทางภาคเหนือ เหยี่ยวขาว ฯลฯ มีแมลงหลากชนิด เช่น ผีเสื้อกลางวัน ด้วงหนวดยาว กว่างดาว ด้วงดิน เป็นต้น แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในอุทยานฯ ถ้ำผาไท สันนิษฐานว่าถูกค้นพบโดยพรานป่าล่าสัตว์ หรือจากการสำรวจเส้นทางหลวงแผ่นดิน ภายในถ้ำ เป็นโถงขนาดใหญ่ที่เกิดจากภูเขาหินปูน อายุไม่น้อยกว่าเก้าล้านปียาวลึกจากปากถ้ำ เข้าไป ประมาณ 1,150 เมตร ตลอดเส้นทางอุทยานฯ ได้ติดตั้งไฟให้สว่างเพื่อสะดวกสำหรับเดินชม หินงอกหินย้อยที่มีอยู่มากมายในถ้ำ และมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ภายในถ้ำ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 เคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ. 2469 ดังปรากฏหลักฐานพระปรมาภิไธยย่อปปร.ภายในถ้ำค้างคาวจำนวนมากได้อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงมีถ้ำโจรและถ้ำเสือที่มีประวัติเก่าแก่สามารถเดินถึงได้จากถ้ำผาไท

ถ้ำโจร เป็นถ้ำขนาดเล็กมี 3 ห้อง งดงามด้วยม่านหินย้อยในแต่ละโถงถ้ำเล่ากันว่าอดีตเคยเป็นที่อาศัยของโจรมาก่อน ภาพเขียน ประวัติศาสตร์บ้านห้วยหก เป็นภาพเขียนสีแดงของกลุ่มคนเดินเรียงแถว มีอายุประมาณ 2,000 - 3,000 ปี เป็นยุคสังคมเร่ร่อน และลักษณะของภาพเขียนดังกล่าวไม่ค่อยได้พบเห็นมากนักในประเทศไทย สามารถเดินเท้าจากหมู่บ้านห้วยหก ระยะทางประมาณ3.5 กิโลเมตร น้ำตกแม่เก้ อยู่ห่างจากบ้านแม่เก้ อำเภองาว ประมาณ 18 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่เกิดจากลำห้วยแม่เก้ถาโถม จากผาหิน เกิดเป็นชั้นน้ำตกที่งดงามท่ามกลางไม้ใหญ่ร่มรื่น

ภาพเขียนสีโบราณประตูผา ระยะทาง 48 กิโลเมตร จากลำปาง บนถนนไฮเวย์ลำปาง-เชียงราย เป็นที่ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาและ หน้าผาสูงชัน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "ประตูผา" เส้นทางสัญจร แต่โบราณไปมาสู่ล้านนาตะวันออก และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญทั้งในสงครามยุคโบราณกับพม่า และในสงครามโลก บนหน้าผาและบริเวณใกล้เคียงมีการค้นพบ ภาพเขียนสีและแหล่ง ฝังศพของคนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ อายุประมาณกว่า 3,000 ปีมาแล้ว ขณะนี้ทางภาครัฐ ท้องถิ่นและเอกชน ในจังหวัด กำลังร่วมกันจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมและศึกษาด้านประวัติศาสตร์ และโบราณคดี

อำเภอเกาะคา

วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ ตามตำนานกล่าวว่ามีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ในราวพุทธศตวรรษที่ 20 ตอนปลาย มีความสวยงามและอลังการด้วยศิลปะสถาปัตยกรรม ที่สร้างขึ้น ในแนวกำแพงใหญ่ที่ทอดยาวกั้นทุกอย่าง ไว้ในบริเวณวัด ส่วนบันไดด้านหน้าเป็นนาค สองชั้น หัวนาคชั้นแรกเป็นมังกรคล้ายนาค ตามคตินิยม ทางเหนือ ชั้นที่สองเป็นหัวนาคหัวเดียว เดินขึ้นไปตามบันไดนาคจนถึงประตูซุ้มโค้งหรือประตูโขง ที่ส่วนบนมีลายปูนปั้นเป็นกรองวิมาน มีนาคและหงส์ตามชั้นต่าง ๆ จนถึงยอดดูสวยงามยิ่ง ข้างบน ด้านหน้าจะเป็นพระวิหารหลวง เป็นวิหาร เปิดโล่งขนาดใหญ่ เป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรม เก่าแก่ มากมายได้แก่พระธาตุลำปางหลวง, วิหารหลวง, วิหารพระพุทธ, ซุ้มพระบาท, กุฏิพระแก้ว, วิหารพระเจ้าศิลา และพิพิธภัณฑ์ ภายในบริเวณวัด

พระเจ้าล้านทอง อยู่ในวิหารหลวง มีกู่สีทองซึ่งบรรจุพระเจ้าล้านทอง เป็นประธานของพระวิหาร หลังพระวิหารหลวง เป็นเจดีย์ประธานทรงกลมแบบลานนาไทย บนฐานสูงมีกำแพงแก้ว ลูกกรง สำริดยอดดอกบัวล้อมเป็นรูปจัตุรัส ส่วนองค์เจดีย์นั้นบุด้วยแผ่นทองแดงปิดทอง ทางเหนือ เรียกว่า ทองจังโก ตามแผ่นโลหะเหล่่านี้มีลายสลักคนเป็นลวดลายแบบต่าง ๆ เกือบไม่เหมือน กันสักแผ่น เดียว ท่านใดที่มีราศีเกิดกับปีฉลู (ปีวัว) อย่าลืมนำวัวมานมัสการพระธาตุเพื่อ สะเดาะเคราะห์ และขอโชคลาภ


วิหารพระพุทธ ไม่ปรากฏว่าสร้างเมื่อใด และใครเป็นผู้สร้างแต่ประมาณอายุไม่ต่ำกว่า 700 ปี เดิมเป็นวิหารเปิดโล่งหน้าบันไดเป็นลายดอกไม้ติดกระจกสี ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป ปางมาร วิชัยขนาดใหญ่เต็มอาคาร ก่ออิฐถือปูน ศิลปะเชียงแสนและยังปรากกเงาพระธาตุในวิหารอีกด้วย เมื่อหันหน้าเข้าวิหารหลวง ด้านขวามือ คือ วิหารน้ำแต้ม หรือวิหารภาพเขียนสี ("แต้ม" แปลว่า ภาพเขียน) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2044 เป็นวิหารเปิดโล่งที่เก่าแก่ที่สุดอีกหนึ่งทางภาคเหนือภายใน เป็้นรูปแบบของถาปัตยกรรมไทยที่งดงาม ไม่มีฝ้าเพดานกำแพงด้านพระประธานเขียนภาพลาย ทองบนพื้นรักแดง มีภาพจิตรกรรมศิลปะล้านนาบนแผงไม้คอสอง ที่กล่าวกันว่าเก่าแก่ที่สุดและ หลงเหลือเพียง แห่งเดียว ในเมืองไทย อายุราวพุทธศตวรรษที่ 21ลงมา แต่ปัจจุบันภาพเขียน ลบเลือนไปมากและประดิษฐาน พระพุทธรูปสัมริดปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 1.25 เมตร สูง 1.25 เมตร

ซุ้มพระบาท สร้างครอบพระพุทธบาทไว้ ฐานก่อขึ้นเป็นชั้นคล้ายฐานเจดีย์ สร้างเมื่อ พ.ศ.1992 ภายในมองเห็นแสงหักเหปรากฏเป็นเงาพระธาตุและพระวิหารในด้านมุมกลับ แต่มีข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้น
กุฏิพระแก้ว เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างเมื่อใด แต่ประมาณอายุไม่ต่ำกว่า 400 ปีมาแล้ว

วิหารพระเจ้าศิลา เป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าศิลาซึ่งเป้นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงละโวเมื่อ พ.ศ.1275 พระบิดาของพระนางจามเทวีมอบให้ประดิษฐานไว้ ณ ที่นี่พิพิธภัณฑ์ รวบรวมศิลปวัตถุจากที่ต่างๆ ที่หาชมได้ยาก เช่น สังเค็ต ธรรมาสน์ คานหาบ ตู้พระไตรปิฎก เป็นต้น นอกจากนี้วัดพระธาตุลำปางหลวงยังเป้นที่ประดิษฐาน พระแก้วดอนเต้า(พระแก้วมรกต) พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปาง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะล้านนา สลักด้วยหยกสีเขียว ทุกปีจะมีงานนมัสการพระแก้วดอนเต้าในวันเพ็ญเดือน 12 นักท่องเที่ยว สามารถเข้าชมวัดพระธาตุลำปางหลวงได้ระหว่างเวลา 07.30-17.00 น.
การเดินทาง การเดินทาง วัดพระธาตุลำปางหลวงตั้งอยู่ที่ ตำบลลำปางหลวง ห่างจากตังเมืองลำปางประมาณ 18 กิโเมตร ตามทางหลวงสายลำปาง-เถิน ถึงหลักกิโลเมตรที่ 586 เลี้ยว เข้าไปจนถึง ที่ว่าการอำเภอเกาะคา จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร ถึงทางแยกเข้าอีก 1 กิโลเมตร หากเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางสามารถใช้บริการรถโดยสารถนนรอบเวียงใกล้ตลาดออมสิน

วัดพระธาตุจอมปิง อยู่ที่อำเภอเกาะคา ตำบลนาแก้ว อยู่ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 32 กิโลเมตร ความอัศจรรย์ที่เกิดกับวัดนี้ คือ การเกิดเงาสะท้อนของพระธาตุบนกระดานผ้าขาว ที่ปรากฏในพระ วิหารตลอดเวลาที่มีแสงสว่าง และยังมีการขุดพบโบราณวัตถุคล้ายจากแหล่ง บ้านเชียง ซึ่งกรมศิลปากรมีโครงการที่จะสำรวจต่อไป เช่น ลูกปัดที่สวยงาม หม้อลายขูดมีด และเครื่องใช้สัมฤทธิ์


วัดเสลารัตนปัพพตาราม (วัดไหล่หิน) วัดไหล่หินหรือวัดไหล่หินแก้วช้างยืน มีวิหารเก่าแก่ฝีมือช่างเชียงตุง สร้างแบบศิลปะล้านนา ไทย ประดับลวดลายงดงามทั้งหลัง โดยเฉพาะส่วนหน้าบันและซุุ้้มประตู มีการก่ออิฐถือปูน ประดับรูปปั้น สัตว์ศิลปะล้านนา ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในวัดมีพิพิธภัณฑ์วัดไหล่หิน ซึ่งเป็นที่เก็บหอพระแก้ว ซุ้มพระพิมพ์ อาวุธโบราณ ที่โรงธรรมมีใบลาน เก่าแก่ของล้านนาไทย ซึ่งพระมหาเกสระปัญโญจารไว้เมื่อ 300 ปีที่แล้ว และวัดแห่งนี้ยังเป็น สถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง พระสุริโยไทอีกด้วย

อำเภอวังเหนือ

น้ำตกวังแก้ว เป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งในอุทยานแห่งชาติดอยหลวงซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นอุทยาน แห่งชาติ เมื่อวันที่ 16 เม.ย. พ.ศ. 2533 ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของจังหวัดพะเยา เชียงราย และลำปาง รวมเนื้อที่ประมาณ 1,170 ตารางกิโลเมตร สภาพภูมิปะเทศเป็นเขาสูงทอดตัว แนวเหนือ-ใต้ ดอยหลวง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด น้ำตกวังแก้ว เป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดของจังหวัดลำปาง มีชั้นน้ำตกประมาณ 110 ชั้น แต่เป็นชั้น ใหญ่ 7-8 ชั้น น้ำตกไหลอยู่ตลอดปี เมื่อขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของน้ำตกจะพบ หมู่บ้านชาวเขาเผ่าเย้า ที่บ้านป่าคาหลวงและบ้านส้าน ซึ่งมีทางขึ้นค่อนข้างชัน ที่น้ำตก วังแก้วยังมีเส้นทางเดินศึกษา ธรรมชาติระยะสั้น 1.4 กิโลเมตร นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียง ยังมีน้ำตกวังทอง ซึ่งมีลักษณะคล้าย น้ำตกวังแก้ว ค่าธรรมเนียมเข้าชม เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท สามารถกางเต็นท์ได้แต่ต้องเตรียม เสบียง ไปเอง

วัดบ้านก่อ วัดบ้านก่อ ตั้งอยู่เลขที่ 55 หมู่ที่ 6 ตำบลวังทรายคำ อำเภอวังเหนือ เป็นศูนย์กลางในการทำ กิจกรรมทาง พุทธศาสนาของชาวบ้านก่อและบ้านต้นฮ่าง ชาวบ้านในชุมชนได้ร่วมสร้างวัดขึ้น เมื่อราวกลางพุทธศตวรรษที่ 25 พระพุทธรูปเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ก่อปูนปั้นทาสีน้ำมัน ภายนอก องค์ประธานนั่งกลาง อีกองค์หนึ่งเพื่อให้เป็นคู่กันประดิษฐานด้านขวา รูปแต้ม ด้วยอายุที่มากกว่า 70 ปีแล้วทำให้วัสดุโครงสร้างอาคารและรูปแต้มหลายแห่ง ได้ผุพังและทรุดโทรมลงไป อันเกิดจากสาเหตุจากธรรมชาติและแมลงรบกวน จึงเป็นที่มาของ "โครงการอนุรักษ์งานจิตรกรรมฝาผนังวัดบ้านก่อ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง" รูปแต้มในวิหาร มีอยู่ทั้งภายในและบนผนังหน้าวิหาร เป็นเรื่องราวของพุทธประวัติ ชาดกและชาดกนอกนิบาต หรือนิทานพื้นบ้านอิงชาดก (ทางวิชาการมักแปรว่าชาดก ที่ไม่ได้บันทึกไว้ในพระไตรปิฎก) ตัววิหารหันไปทางทิศตะวันออก มีโถงกว้างด้านหน้าก่อนเข้าสู่ภายใน ซึ่งมีรูปแต้มสีฝุ่นเรื่อง "หงส์หิน" ในวิหารมีรูปแต้ม เรื่อง "พรหมจักร" "พระเวสสันดร" "พระเตมีย์" "พระมาลัยโปรดโลก" และ "พุทธประวัติ" วัดจะสามารถรวบรวมเงินทุนได้จากผู้มีจิตศรัทธาในเทศกาล ประเพณี หรือพิธีกรรมในรอบปี ปัจจุบันจึงเห็นสิ่งก่อสร้างใหม่ๆเพื่อตอบสนองต่อการใช้สอยในชีวิตประจำวันของพระภิกษุสามเณร หรือการทำกิจกรรมอื่นๆ ของชุมชน

วัดพระเกิด เมื่อดินทางถึงหลักกิโลเมตรที่ 8 ของพรช. มองไปทางทิศตะวันตกประมาณ 500 เมตร จะเห็นยอดพระเจดีย์สูงสง่างามเด่น แลระยิบระยับเป็นสีทอง อยู่ในหมู่บ้านแม่เลียบ หมูที่ 8 ตำบลทุ่งฮั้ว อำเภอวังเหนือ นับเป็นวัดโบราณและมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ซึ่งแต่ก่อนเป็น วัดเอกและเป็นวัดประจำของชาวเมืองวัง มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพสักการะของ พุทธศาสนิกชนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วัดพระเกิดมีโบราณสถานที่สำคัญคือ พระเจดีย์ ซึ่งมีความสูงถึง 36 เมตร ฐานกว้าง 18 เมตร ส่วนบนสุดของเจดีย์ที่ต่อจากฉัตรจะมีแม่กาทอง เด่นเป็นสง่าซึ่งนับเป็นสัญลักษณ์ของเจดีย์วัด พระเกิดที่ไม่มีที่อื่นมี บริเวณพระเจดีย์ มีขนาดกว้างมีกำแพงอยู่สองชั้น คือกำแพงชั้นใน (กำแพงแก้ว) ส่วนกำแพงชั้นนอกทำด้วยศิลาแลง บริเวณลานพระเจดีย์ปูด้วยหินอ่อน พุทธศาสนิกชนนิยมมาปฏิบัติธรรมและเวียนเทียนในวันสำคัญทางศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันขึ้น 15 ค่ำ นอกจากนี้วัดเจดีย์วัดพระเกิด ยังเป้นเจดีย์ที่ประดับด้วยแก้วทั้งองค์ มีฉัตรข้างบน และฉัตรล่างอีก 4 ฉัตร แต่ละฉัตรจะมีกาทองอยู่ทุกฉัตร

ดอยหนอก ดอยหนอก ตั้งอยู่ตำบลวังทอง อำเภอวังเหนือ ถือเป็นมรดกทางธรรมชาติร่วมกันระหว่าง จังหวัดลำปางและจังหวัดพะเยา นั่นคือภูเขาที่สูงใหญ่และมีแนวทอดยาวกั้นระหว่าง 3 จังหวัด นั่นคือ เชียงราย พะเยา และ ลำปาง ที่มีชื่อว่าภูเขาผีปันน้ำ โดยมีส่วนหนึ่งของภูเขานี้ ซึ่งมีชื่อว่าดอยหนอก ซึ่งถือเป็นดอยสูงสุดบนสันดอยหลวง หากท่านที่เดินทางสายพะเยา-อำเภอวังเหนือเป็นประจำก็จะคุ้นเคยกับดอยนี้เป็นอย่างดี เพราะมีลักษณะนูนขึ้นมาคล้ายโหนกวัว มองเห็นได้ชัดเจนแต่ไกล บนยอดดอยหนอกจะพบกับพระธาตุเพื่อสักการะเพื่อความเป็น ศิริมงคล เมื่อขึ้นถึงยอดดอย แล้วก็คงหายเหนื่อยเพราะสามารถดูทิวทัศน์ได้ถึง 360 องศา ไม่ว่าจะมองมาทิศตะวันตก ชมพระอาทิตย์ตกดินพร้อมกับชมอำเภอวังเหนือ อำเภอเล็กๆ ที่อยู่ใต้ภูเขาแห่งนี้ หรือจะมองไป ทางทิศตะวันออกดูพระอาทตย์ขึ้น พร้อมกับดูบรรยากาศ ทางฝั่งพะเยาดูตัวเมืองพะเยา และกว๊านพะเยา สามารถดูได้ถึง 2 จังหวัดในครั้งเดียวกัน

อำเภอสบปราบ

อุทยานแห่งชาติดอยจง อุทยานแห่งชาติดอยจง มียอดดอยจงเป็นดอยที่สูงสุดเป็นที่ราบกว้างซึ่งมีป่าสนเขา ขึ้นกระจายเป็นกลุ่มๆ และมีหน้าผาเป็นจุดชมทิวทัศน์อยู่หลายแห่ง สามารถชมทิวทัศน์ ได้ทั้งยามดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าในยามเช้าและลับขอบฟ้าในยามเย็น นอกจากนี้บนดอยจงยังพบกล้วยไม้จำนวนมาก โดยเฉพาะฟ้ามุ่ยซึ่งมีสีงดงาม แปลกกว่าฟ้ามุ่ยในพื้นที่อื่น โดยจะออกดอกในช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม จากสันเขามองลงไปเห็นท้องนากว้างใหญ่ของอำเภอสบปราบ และอำเภอเกาะคา ทางขึ้นกับทางลงเป็นคนละเส้นทางกัน ทางลงจะผ่านสันป่าเกี๊ยะซึ่งมีต้นสนสองใบ และสนสามใบขึ้นอยู่หนาแน่น กว่าบริเวณอื่นเหมาะที่จะ ค้างแรม จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติมีเส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดดอยจงระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร สภาพทางค่อนข้างชัน ใช้เวลาเดินขึ้นราวครึ่งวัน ผู้สนใจต้องติดต่อ เจ้าหน้าที่ช่วยนำทาง
การเดินทางขึ้นยอดดอยจง ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทาง เตรียมเสบียง เต็นท์ถุงนอนและสัมภาระส่วนตัวไปเอง ควรใช้เวลาเดินขึ้น 2 วัน โดยคืนแรก พักที่สันป่าเกี๊ยะ ซึ่งเป็นป่าสนสองใบและสนสามใบ รุ่งเช้าเดินขึ้นยอดดอย คืนที่สองพักแรมบนยอดดอยจง แล้วเตรียม ตัวกลับในช่วงสาย บนสันเขาปกคลุม ไปด้วยป่าก่อสลับต้นสนเป็นระยะพื้นล่างเต็มไปด้วยต้นกระเจียว ที่ออกดอกสีชมพู ในช่วงต้นฤดูฝน ดอกไม้อีกชนิดที่โดดเด่นและทางอุทยานฯ นำไปเป็นสัญลักษณ์ คือ กล้วยไม้ฟ้ามุ่ยซึ่งดอกสีสวยสดกว่าแหล่งอื่นๆ ในประเทศ
ผากาน อยู่ห่างจากยอดดอยจงประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นทางดิ่งลงเขาตลอด เป็นเส้นทางที่เหมาะสมสำหรับดูนกเป็นผาหินปูนแหลมคมการปีนขึ้นต้องใช้ความ ระมัดระวัง บนผามองเห็นผืนป่าและทิวเขาทอดตัวยาวทางด้านหลังมองเห็นยอด ดอยจงอยู่สูงกว่าระดับสายตา
จุดชมทิวทัศน์ป่าอาบ บริเวณสองข้างทางถนนสายเถิน-ลี้ ช่วงหลักกิโลเมตร ที่ 13-26
น้ำตกแม่งาช้าง เป็นน้ำตกขนาดเล็กมีน้ำเฉพาะในช่วงฤดูฝนสูงประมาณ 12 เมตร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 2 กิโลเมตรในท้องที่ตำบลนายาง อำเภอสบปราบ
น้ำตกตาดปู่หล้า เป็นน้ำตกขนาดเล็ก 2 ชั้น มีน้ำเฉพาะในช่วงฤดูฝน อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน ฯ 1 กิโลเมตร ในท้องที่ตำบลนายาง อำเภอสบปราบ
ผาช้าง อยู่ตรงข้ามที่ทำการอุทยานฯ เป็นภูเขาลูกเล็กๆ ริมอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ยอง บนเขามองลงมาเห็นอ่างเก็บน้ำ ที่ทำการอุทยานฯ และทิวเขาสลับซับซ้อนเป็นฉากหลังนอกจากนี้ยังมีถ้ำและน้ำตกอื่นๆ ที่เพิ่งจะสำรวจพบแต่ยังไม่ได้พัฒนาเป็นแหล่ง ท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ เช่น น้ำตกห้วยค่าง ผายอง ถ้ำห้วยแดง ถ้ำก้นหอย และถ้ำแม่เก่ง
การเดินทาง ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง ตามทางหลวงหมายเลข 1 ประมาณ 54 กิโลเมตร ถึงที่ว่าการอำเภอสบปราบ เลยไปประมาณ 500 เมตร มีทางเลี้ยวซ้ายตรงป้ายนาปราบ (หากมาจากลำปางทางเข้า จะอยู่ทางขวา ระหว่างกิโลเมตรที่ 549-550 เลี้ยวไปตามถนนคอนกรีตราว 7.5 กิโลเมตร จะมีป้ายของอุทยานฯ ให้เลี้ยวซ้ายไปอีก 6 กิโลเมตร ถนนช่วงนี้เป็น ทางลูกรังค่อนข้างสมบุกสมบัน ควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อหรือรถปิกอัพ สุดถนนคือที่ทำ การอุทยานฯ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ยอง


อำเภอแจ้ห่ม

วัดอักโขชัยศิริ
ตั้งอยู่บนเนินเขาริมถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม บริเวณกิโลเมตรที่ 50-51 ด้านซ้ายมือ มีทางขึ้น 2 ทางคือทางเดินขึ้นบันได ด้านหน้าหรือขับรถขึ้นทางถนนด้านหลังโบสถ์และเจดีย์เป็นแบบล้านนาอยู่ใกล้เคียงกันวัดนี้มีปรากฏ การเงาสะท้อนพระเจดีย์ เป็นภาพสี เช่นเดียวกับวัดพระธาตุจอมปิงเงาพระเจดีย์จะปรากฏอยู่ตรงที่เดิมไม่เคลื่อนย้ายตลอดทั้งวันตราบเท่าที่ยังมี แสงสว่าง
นอกจากนี้ภายในโบสถ์ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่เรียกว่า พระศากยมุณีคีรีอักโข ซึ่งมีความสูง 5 วา 2 ศอก เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ เป็นที่นับถือของชาวแจ้ห่มมาก โบสถ์เปิดเวลา 07.00-17.00 น. หากใครสนใจ งานศิลปะท้องถิ่น มีสัตตภัณฑ์ไม้ไผ่พุทธศตวรรษที่ 25 สำหรับจุดเทียนบูชาพระประธานและธรรมมาสน์ไม้ไผ่ศิลปะ ล้านนาซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังโบสถ์

อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาคำลือ เป็นที่ประดิษฐสถาน อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาคำลือ ซึ่งเป็นอุปราชใหญ่ได้ครองเมืองวิเชตนคร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1897 และเป็นสถานที่ สักการะกราบไหว้ของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ได้มาแวะเยี่ยมเยือน อำเภอแจ้ห่ม ถ้าได้เข้ามาเมืองแจ้ห่มแล้วจะได้เข้ามาสักการะเจ้าพ่อพญาคำลือวัดพระบาทปู่ผาแดง ตั้งอยู่บริเวณหมู่ที่ 7 บ้านทุ่งทอง วัดได้ตั้งอยู่ในป่า หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ดอยปู่ยักษ์ หรือดอยพระบาทปู่ผาแดง ซึ่งสถานที่ ดังกล่าวได้มีพระพุทธบาทของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้จารึกไว้บนแผ่นหินขนาดใหญ่ และบริเวณวัดแห่งนี้ ได้มีถ้ำ อยู่หลายแห่ง เช่น ถ้ำผาสวรรค์ ปล่องลมมหัศจรรย์ มีลายหินงามเตาหินปูนแบบโบราณ และบริเวณเดียวกันนั้นจะมีเมืองโบราณที่ชื่อว่าเมืองวิเชตนคร อยู่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งปัจจุบันนี้ ทางคณะสงฆ์ และประชาชนชาวอำเภอแจ้ห่มได้ร่วมกันก่อสร้าง ปรับปรุงบริเวณใกล้เคียงเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคตอันใกล้นี้ วัดดงนั่งชัยคีรี ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 บ้านปงคอบ วัดแห่งนี้ ราษฎรได้ร่วมใจกัน พัฒนาบริเวณรอบ ๆ วัด ให้คงรักษาเป็นป่าเขียวขจี ให้ประชาชนได้พักผ่อนหย่อนใจ และได้รับรางวัลป่าเขียวขจี ในระดับจังหวัดเมื่อปี 2542

อำเภอเสริมงาม

ศูนย์ศิลปชีพแม่ต๋ำ ตั้งอยู่ที่อำเภอเสริมงาม ห่างจากตัวเมืองประมาณ 30 กม. เป็นโครงการในพระราชดำริ ก่อสร้างขึ้นมาในปี พ.ศ.2527 โดยการจัดสร้างศูนย์ศิลปชีพขึ้นนั้นมีกิจกรรมหลักๆ 3 กิจกรรม คือ กิจกรรมแรก คือ กิจกรรมปลูกป่า และป้องกันรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่ รับผิดชอบ มีการปลูกป่าและมีการอนุรักษ์พันธุ์ไม้และการป้องกันไฟป่า การเพาะปลูกกล้าไม้ การลาดตระเวนป้องกันผู้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า รักษาพันธุ์สัตว์ป่า ปฏิบัติเป็นประจำ คือ เรื่องไม้ป่าต้องป้องให้ดี พยายามจะไม่มีไฟไหม้ในพื้นที่ป้องกันการล่าสัตว์ การตัดไม้ทำลายป่ากิจกรรมที่ 2 คือ กิจกรรมด้านเกษตรกรรม มีแปลงสาธิตการเกษตรจะมีการ เพาะปลูก พวกส้ม ผัก แปลงสาธิตการเกษตร ให้ราษฎรได้นำไปดูเป็นตัวอย่าง แจกพันธุ์ข้าว ผัก ไก่ หมู ให้ชาวบ้านไปเลี้ยงเป็นการเสริมรายได้กิจกรรมที่ 3 เกี่ยวกับเซรามิค เครื่องปั้นดินเผา ในพื้นที่นี้ก็มีทอผ้าทั้งผ้าฝ้ายและ ผ้าไหม แกะสลัก ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เมื่อผลิตภัณฑ์ต่างๆ สำเร็จเป็นรูปร่าง ก็จะนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้มาจำหน่ายในราคาถูก เป็นรายได้เสริมอีกส่วนหนึ่งด้วย

2552-11-24

อำเภอแม่เมาะ

เหมืองลิกไนต์
เป็นแหล่งถ่านหินลิกไนต์ซึ่งค้นพบเมื่อ พ.ศ.2498 มีปริมาณถึง 630 ล้านตัน และมีอายุประมาณ 40 ล้านปี พื้นที่เหมืองทั้งหมดเป็นของกรมป่าไม้ มีประมาณ 20,000 ไร่ สามารถใช้ได้อีกประมาณ 50 ปี มีการสร้างโรงไฟฟ้า ที่ใช้ถ่านหินชนิดนี้เป็นเชื้อเพลิงตั้งอยู่หลายโรง เครื่องกำเนิดไฟฟ้ามากถึง 13 เครื่อง ถ่านหินลิกไนต์จากเหมืองแม่เมาะถูกนำมาแปรเปลี่ยนเป็น พลังงานไฟฟ้า ส่งไปใช้งานทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เฉียงเหนือ สำหรับบ้านเรือน ร้านค้า โรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ ถึงแม้ นักท่องเที่ยวจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงไปบริเวณขุดเจาะถ่านหินเพราะมี อันตรายจากวัตถุระเบิดที่ใช้ทำเหมือง แต่ กฟผ. ได้จัดทำจุดชมวิวสำหรับ นักท่องเที่ยวซึ่งเป็นสวนหย่อมตกแต่ง ปลูกไม้ประดับต่างๆ ความสวยงาม ของพันธุ์ไม้ ศาลาชมวิว จุดชมวิว ชมการระเบิดของลิกไนต์ และสามารถ มองเห็นการทำงานของ รถขุดตักแร่ รถขนถ่านหินลิกไนต์ผ่านสายพาน เข้าสู่เครื่องจักรซึ่งอยู่ห่างออกไปเบื้องล่าง ได้เป็นมุมกว้างในบริเวณเหมือง มีบ้านพักรับรองของ กฟผ. สนามกอล์ฟ และสโมสร









สวนพฤกษชาติ เหมืองลิกไนต์ อ. แม่เมาะ จ. ลำปาง เหมืองลิกไนต์ อยู่ในเขต อำเภอแม่เมาะไปตามถนนสายลำปาง-เด่นชัย (แพร่) เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร จากนั้นแยกซ้ายเข้าการไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตรสามารถเช่ารถสองแถวซึ่ง จอดอยู่บริเวณตลาดบริบูรณ์ในตัวเมือง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที " ลิกไนต ์" เป็นถ่านหินประเภทหนึ่งที่มีการค้นพบในบริเวณนี้เมื่อปี พ.ศ. 2460 มีปริมาณถึง 630 ล้านตัน และมีอายุประมาณ 40 ล้านปี
พื้นที่เหมือง ทั้งหมดเป็นของกรมป่าไม้ มีประมาณ 20,000 ไร ่สามารถใช้ได้อีกประมาณ 50 ปี บริเวณเหมืองมีโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหิน ชนิดนี้เป็นเชื้อเพลิง ตั้งอยู่หลายโรง ถึงแม้นักท่องเที่ยวจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงไป บริเวณขุดเจาะถ่านหินเพราะมีอันตรายจาก วัตถุระเบิดที่ใช้ทำเหมือง แต่กฟผ.ได้จัดทำจุดชมวิวสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นสวนหย่อม ตกแต่งปลูกไม้ดอกไม้ประดับต่าง ๆ ณ จุดนี้ซึ่งสามารถมองเห็นการทำงานของรถขุดตักแร่ซึ่งอยู่ห่างออกไปเบื้องล่างได้เป็นมุมกว้างในบริเวณเหมืองมีบ้านพัก รับรองของ กฟผ.

2552-11-23

จังหวัดลำปาง


จังหวัดลำปาง เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือตอนบน สภาพภูมิประเทศเป็นขุนเขาทอดยาวจากเหนือจรดใต้ ตอนกลางของจังหวัดเป็นแอ่งที่ราบลุ่มลำน้ำวัง เป็นที่ตั้งของเวียงเล็กเวียงน้อย ทับซ้อนกันกว่า 1,300 ปีแล้ว หรือเกิดร่วมยุคร่วมสมัยกับเมืองหริภุญไชย หรือจังหวัดลำพูน ในยุคปัจจุบัน จากสภาพภูมิประเทศ ของจังหวัด ประกอบกับเป็นเมืองเก่าแก่มาร่วม 1,300 ปี จึงทำให้จังหวัดลำปางเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้มาศึกษาหาความรู้ และมา พักผ่อนหย่อนใจ ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และแหล่งท่องเที่ยวทางด้าน โบราณสถาน โบราณวัตถุ โดยแหล่งท่องเที่ยวทาง ธรรมชาติจะมีทั้งป่าไม้ ขอบเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญ ที่รักษาระบบนิเวศวิทยา และหล่อเลี้ยงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจังหวัดลำปาง มาตราบเท่าทุกวันนี้ มีถ้ำ น้ำตก น้ำพุร้อนและขุนเขา ที่ยืนตระหง่านรอให้ นักท่องเที่ยวได้เข้ามา ศึกษาและเยี่ยมชม ในส่วนของแหล่งท่องเที่ยว ทางด้านโบราณสถาน และโบราณวัตถุจังหวัดลำปาง มีหลายแห่งซึ่งหลากหลาย โดยแต่ละแห่งจะแสดง ถึงประวัติศาสตร์และความเป็นอยู่ ของชาวจังหวัด ลำปางในแต่ละยุค แต่ละสมัย ทั้งวิถีชีวิตขนบธรรมเนียมประเพณี ตลอดจน ศิลปวัฒนธรรมที่สืบทอด กันมายาวนานจนถึงปัจจุบัน เช่นวัดพระธาตุลำปางหลวง วัดไหล่หิน และวัดที่มีการผสมผสานของศิลปะแบบล้านนา กับสถาปัตยกรรม ของพม่าจนได้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีวัด และอาคารบ้านเรือน ตามแบบสถาปัตยกรรมพม่ามากที่สุดในประเทศไทย เป็นต้น นอกจากนี้จังหวัดลำปางยังคงความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น โดยนำรถม้า เป็นพาหนะในการรับส่งผู้โดยสารมากว่า 80 ปีแล้ว ปัจจุบันยังคงใช้เป็นพาหนะ ให้บริการนำนักท่องเที่ยวนั่งเยี่ยมชมสถานที่สำคัญของจังหวัดลำปาง ในบรรยากาศย้อนยุคที่หลงเหลือ มาตราบเท่าทุกวันนี้.

อำเภอเมืองปาน











อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมมากในจังหวัดลำปางมีพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด 480,000 ไร่ 786 ตาราง กิโลเมตร ครอบคลุม 4 อำเภอ คือ อำเภอเมืองปาน อำเภอเมือง อำเภอแจ้ห่ม อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง ในอุทยานเป็นธารน้ำร้อนน้ำแร่ธรรมชาติ และธารน้ำตกที่เย็นไหลบรรจบกันและมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติและเดินลัดเลาะ เป็นน้ำตกแจ้ซ้อน ฯลฯ และจุดชมวิวธรรมชาติ และเทศกาล "ดอกเสี้ยว" (ดอกชงโคสีขาว) ที่บานสะพรั่งในฤดูหนาว ตลอดจนมีห้องอาบน้ำ แร่ และห้องพักไว้บริการให้กับ นักท่องเที่ยวด้วย อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนได้รับรางวัล “อุทยานแห่งชาติดีเด่นประจำปี 2543 ” ตามที่กรมป่าไม้ได้จัดงานวันสถาปนากรมป่าไม้ครบรอบ 104 ปี เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2543โดยได้จัดประกวดอุทยานแห่งชาติดีเด่นด้านการท่องเที่ยวประจำปี 2543 ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 58 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2531
แหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน

1. น้ำตกแจ้ซ้อน เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำน้ำแม่มอนที่ไหลผ่านภูมิประเทศที่มี ความสูงต่างระดับกัน ตกลงมาเป็นชั้นๆ ในแต่ละชั้นจะมีแอ่งน้ำรองรับและมีความสวย งามแตกต่างกันออกไป มีเส้นทางรถยนต์ และทางเดินเท้าเข้าถึง ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรจากที่ทำการอุทยานฯ มีทั้งหมด 6 ชั้น
2. เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติ อย่างใกล้ชิด ตลอดจนให้เข้าถึงการดำรง ชีวิตของพืชและสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ ร่วมกันในป่าใหญ่ ทางอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนได้จัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ขึ้นทั้งหมดรวม 3 เส้นทาง คือ
2.1 เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกแจ้ซ้อน
2.2 เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกแม่เปียก
2.3 เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกแม่ขุน – แม่มอน

3. บ่อน้ำพุร้อน เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่สภาพการการเกิดทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ มีบ่อน้ำพุร้อน จำนวน 9 บ่อ ภายในพื้นที่มีโขดหิน น้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของน้ำพุร้อนประมาณ 73 องศา เซลเซียส นักท่องเที่ยวนิยมนำไข่ไก่และไข่นกกระทามาแช่ สำหรับไข่ไก่แช่นาน ประมาณ 17 นาที ไข่แดงจะแข็งมีรสชาดมันอร่อย ไข่ขาวจะเหลวคล้ายไข่เต่า
4. ห้องอาบน้ำแร่ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนได้จัดสร้างห้องอาบน้ำแร่ไว้คอยบริการ นักท่องเที่ยว โดยมีการจัดการโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ที่สวยงาม กลม กลืนกับธรรมชาติ มี 3 ลักษณะ คือ ห้องอาบน้ำแร่แบบแช่ส่วนตัว จำนวน 41 ห้อง ห้องแช่รวม 1 ห้อง และสระน้ำแร่กลางแจ้ง 3 บ่อ ไว้บริการนักท่องเที่ยวทุกวัน อุณหภูมิของน้ำแร่ที่ใช้อาบประมาณ 39-42 องศาเซลเซียส โดยน้ำแร่ที่ใช้แช่อาบจะ ต่อท่อตรงมาจากบ่อพักน้ำแร่ลานน้ำพุร้อน ซึ่งสะอาดปลอดภัย การอาบน้ำแร่เป็นการ บำบัดความเมื่อยล้าของร่างกาย ทำให้รู้สึกสดชื่น ช่วยให้โลหิตไหลเวียนดี และยัง ช่วยรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ เช่น กลาก เกลื้อน ผื่นคัน เป็นต้น นอกจากนี้ยัง มีนวดแผนโบราณไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอีกด้วยอัตราค่าบริการ1. ห้องอาบน้ำแร่แบบแช่ส่วนตัว ผู้ใหญ่ 50 บาท/คน เด็ก 20 บาท/คน2. ห้องอาบน้ำแร่แบบแช่รวม ผู้ใหญ่ 20 บาท/คน เด็ก 10 บาท/คน3. ห้องอาบน้ำแร่แบบสระกลางแจ้ง คนละ 10 บาท

5. ลานดอกเสี้ยว หมู่บ้านป่าเหมี้ยง บ้านป่าเหมี้ยงตั้งอยู่บนภูเขาสูงมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ทำให้มีต้นชาชุกชุม ชาวบ้านแจ้ช้อนขึ้นไปอยู่อาศัยเป็นการถาวรและตั้งชื่อหมู่บ้านว่า "ป่าเหมี้ยง" ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง จะมีดอกเสี้ยวบาน (ดอกชงโคสีขาว) เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี หรือเรียกว่า "กิ่วฝิ่น" ซึ่งบ้านป่าเหมี้ยงอยู่ในเขตวนอุทยานน้ำแร่ แจ้ซ้อน ห่างประมาณ 7 กิโลเมตร เส้นทางไปยังหมู่บ้านเป็นสันเขา มีต้นดอกเสี้ยวป่าออกตามธรรมชาติจำนวนมาก ซึ่งเป็นแห่งเดียว ในจังหวัดลำปาง ขณะนี้ได้ผลิตดอกบานสะพรั่งอย่างสวยงาม ปกติจะผลิตดอกในช่วงเดือน ม.ค- กพ.ของทุกปี จึงมีเทศกาลดอกเสี้ยวบานขึ้น ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และเส้นทางดังกล่าว สามารถเดินทางไปยัง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ได้
6. ถ้ำผางาม อยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ที่ จซ.2 (ผางาม) ห่างจากที่ว่าการอำเภอวังเหนือประมาณ 8 กิโลเมตร มีถ้ำที่สามารถเข้าไปศึกษาและ ท่องเที่ยวได้จำนวนหลายถ้ำ เช่น ถ้ำผางาม(ถ้ำหนานขัด) ถ้ำน้ำ ถ้ำหม้อ ถ้ำหลวง ถ้ำลูกเกาะ เป็นต้น หน่วยพิทักษ์ฯ ที่ จซ.2 อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 60 กิโลเมตร
7. จุดชมวิวดอยล้าน อยู่ระหว่างอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน กับอุทยานแห่งชาติแม่ ตะไคร้ จ.เชียงใหม่ เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมาก อากาศหนาว